ที่มา: kapook
ทั้งนี้เพราะ ผู้หญิง ในวัย 40 และ 50 ขึ้นไป จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนร่วมด้วย ซึ่งเป็นผลจากการผลิตฮอร์โมนเพศของ ผู้หญิง ที่ลดลง (ฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเทอโรน) ส่งผลให้มีการสังเคราะห์คอลลาเจน อีลาสติน และองค์ประกอบอื่น ๆ ของผิวลดน้อยลงด้วย เช่น การผลิตไขมันจากต่อมไขมัน ทั้งหมดนี้ นำไปสู่ผิวที่บาง แห้ง และการเปลี่ยนแปลงในทางลบ
นอกจากนี้แล้ว ยังมีปัญหาอื่นที่ตามมาคือ ผิวเกิดการอักเสบอย่างมาก แบบไม่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยสายตา ความแก่ที่สัมพันธ์กับการอักเสบของ ผิวหนัง และความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของเซลล์ผิวหนัง การอักเสบจะรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการเกิดและสะสมอนุมูลอิสระ สุดท้ายนำไปสู่การทำลายเซลล์ การเสื่อมสภาพของ ผิวหนัง และปัญหาอื่น ๆ ตามมา
สัญญาณเตือนของผิวผู้หญิงวัย 40
การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังของคนอายุ 40 ขึ้นไปที่สังเกตได้ มีดังต่อไปนี้
- ผิวหนังชั้นนอก (epidermis ชั้น stratum corneum) หนาขึ้นและแห้งกร้าน ลักษณะผิวหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น
- ผิวหนังชั้นกลาง (dermis) ซึ่งปกติผิวหนังชั้นนี้จะแข็งแรง กระชับและยืดหยุ่น แต่หากพบว่า ผิวหนังบางลงและไม่แข็งแรง ก็จะนำไปสู่การเกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่นได้
- ความลึกของริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่ใบหน้า ก่อให้เกิดผิวย่นขึ้น และถ้าเกิดบ่อย ๆ เข้า ก็จะทำให้ผิวหนังชั้นกลางไม่สามารถยึดจับกับผิวชั้นบนสุดได้ ทำให้เกิดร่องลึกของริ้วรอยตามมาได้อย่างรวดเร็ว
- เกิดความผิดปกติของเม็ดสีผิว สีผิวไม่สม่ำเสมอ เส้นเลือดฝอยแตก ผิวหนังแดง และจุดด่างดำ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความแก่ชรา
- การทำงานของต่อมไขมันลดลง และการสูญเสียความสามารถในการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ทั้งสองมีส่วนเสริมซึ่งกันและกัน ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยและแห้งกร้าน
=)) ข้อมูลอันนี้สำคัญของผุ้หญิง
ตอบลบ