วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556



เนื่องจากปัจจัยต่างๆไม่สามารถทำให้พวกเรารับประทานอาหาร 5 หมู่ได้ครบถ้วน จึงได้มีการผลิตอาหารเสริม ขึ้นมาเเพื่อทดแทนสารอาหารที่ขาดไป หรือรับประทานได้่ไม่ครบ วิตามินรวม คืออีกทางเลือกสำหรับผุ้คนส่วนใหญ่ที่จะซื้อมารับประทานเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
แต่รู้ไหมว่า ผลการวิจัยสองชิ้นล่าสุดที่เผยแพร่ในวารสารแอนนาล ออฟ อินเทอร์นอล เมดิซิน ระบุไว้ว่า ผลการทดสอบ วิตามินรวม พบว่า วิตามินรวมเหล่านี้ไม่ได้ช่วยป้องกันอาการสมองเสื่อมหรือช่วยป้องกันโรคหัวใจได้แต่อย่างใด
โดยมีตัวเลขชี้ว่าชาวอเมริกันหลายล้านคนใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อวิตามินกิน เพราะเชื่อว่าจะช่วยทำให้สุขภาพดี และช่วยเสริมวิตามินที่ขาดของร่างกาย คนส่วนใหญ่ไม่ได้กินสารอาหารเข้าไปอย่างเพียงพอ แต่กลับหันไปกินวิตามินรวม เหล่านี้แทน ซึ่งผลการวิจัยแนะนำว่าไม่ควรจะกินวิตามิน อาหารเสริมเหล่านี้แบบสม่ำเสมอเพื่อป้องกันโรค เพราะไม่พบว่าช่วยลดการเจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บลงได้
แพทย์หญิงซินเธีย เมอร์โรว์ รองบรรณาธิการวารสารแอนนาล ออฟ อินเทอร์นอล เมดิซินกล่าวว่า หลักฐานที่ได้มานั้นเพียงพอที่จะแนะนำให้เลิกการกิน วิตามิน เป็นประจำเสียที อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ที่ซื้อมัลติวิตามินหรือ อาหารเสริม อื่นๆ จะเป็นคนที่ห่วงใยในสุขภาพ จนทำให้แม้แต่ในอาหารขยะทั้งหลายก็มักจะหลอกล่อคนให้มาซื้อกินด้วยการบอกว่าใส่ วิตามิน เข้าไป แต่จริงๆ แล้วปัญหาหลักของสารอาหารที่ผู้คนได้รับในสหรัฐอเมริกาคือ มีไขมันและแคลอรีมากเกินไป
คณะทำงานด้านการบริการการป้องกันของสหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับวิตามินอาหารเสริม ว่ามีความเสี่ยงต่อบุคคลที่จะทำให้เกิดโรคหัวใจหรือโรคมะเร็งหรือไม่ ซึ่งในข้อเสนอที่มีเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางคณะทำงานได้ระบุไว้ว่า ไม่มีหลักฐานที่มากพอที่จะบอกว่า วิตามินรวม มาตรฐานและสารอาหารอื่นๆ นั้น ทำให้เกิดความเสี่ยงดังกล่าวขึ้น และอาจจะต้องมีการพิจารณากันอีกครั้งในปีหน้า
นายแพทย์โฮเวิร์ด เซสโว จากโรงพยาบาลบริกแฮมแอนด์วีเมน จากบอสตัน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำการวิจัยเกี่ยวกับ วิตามินรวม บอกว่า ผลการศึกษาเกี่ยวกับ วิตามินรวม นั้นได้ผลที่ผสมผสานกันไป และชี้ให้เห็นว่าประโยชน์ของมันบางครั้งก็มีน้อยมากสำหรับในบางสภาพร่างกาย แต่ก็ไม่มีผลกับอีกสภาพร่างกายและจะต้องทำการวิจัยเพิ่มเติมไปอีก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง แต่ที่แน่ๆ ก็คือ มันไม่สามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงได้ดีเท่ากับการกินอาหารที่ดี และมีพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่ดี เช่น การออกกำลังกายได้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น