วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556



วิตามินอี เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีโครงสร้างหลากหลายถึง 8 รูปแบบ สำหรับรูปแบบที่พบมากในผลิตภัณฑ์ทั่วไปคือ แอลฟา-โทโคเฟอรอล (Alpha-tocopherol) วิตามินอี มีคุณสมบัติเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคและช่วยลดความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ที่มีสาเหตุมาจาก อนุมูลอิสระ โดยขนาดที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันคือ 

อายุ ปริมาณวิตามินอี (Alpha-tocopherol) ที่ต้องการในแต่ละวัน
  • 0-6 เดือน 4 mg (6 IU)
  • 7-12 เดือน 5 mg (7.5 IU)
  • 1-3 ปี 6 mg (9 IU)
  • 4-8 ปี 7 mg (10.4 IU)
  • 9-13 ปี 11 mg (16.4 IU)
  • 14 ปีขึ้นไป 15 mg (22.4 IU)
  • หญิงตั้งครรภ์ 15 mg (22.4 IU)
  • หญิงให้นมบุตร 19 mg (28.4 IU)
สำหรับผู้ที่ต้องการ วิตามินอี เพิ่มขึ้นเพื่อการป้องกันโรคหรือผู้ที่มีปัญหาในการดูดซึมสารอาหาร ก็อาจเลือกรับประทานวิตามินที่เป็น อาหารเสริม ที่มีขายอยู่ทั่วไป แต่ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถึงปริมาณที่เหมาะสมก่อน โดยขนาดที่แนะนำเพื่อใช้ อาหารเสริม ของ วิตามินอี ให้แก่ร่างกายคือ 40 – 200 IU ต่อวัน และไม่ควรรับประทานมากกว่า 1,500 IU ต่อวัน ในเรื่องของความปลอดภัยนั้น มีงานวิจัยหลายชิ้นเกี่ยวกับการรับประทาน วิตามินอี ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานทั้งในคนปกติและผู้ป่วยโรคต่างๆ พบว่าเกิดอาการข้างเคียงที่ไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มที่ได้รับ วิตามินอี และกลุ่มที่ได้รับยาหลอก เช่น การศึกษาในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ซึ่งมีการให้วิตามินอีขนาด 2000 IU ต่อวัน ติดต่อกันนาน 2 ปี พบว่ากลุ่มที่ได้รับ วิตามินอี และกลุ่มที่ได้รับยาหลอกเกิดอาการข้างเคียงที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ เป็นต้น แต่เนื่องจากวิตามินอี เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ซึ่งหากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป มีความเป็นไปได้ที่อาจทำให้เกิดการสะสมในร่างกายและก่อให้เกิดผลเสียได้ เช่น อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออกได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จึงไม่ควรรับประทาน วิตามินอี ในปริมาณสูงและติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกินไป แต่ก็ยังไม่มีการศึกษาหรือคำแนะนำใดที่ระบุเวลาที่เหมาะสมไว้อย่างแน่ชัด


1 ความคิดเห็น: