อย. แนะนําวิธีการเลือกซื้อและล้าง ผักผลไม้ ให้ปราศจากสารพิษตกค้างจากสารฆ่าแมลงในช่วง เทศกาลกินเจ เพราะหากผู้บริโภคได้รับสารฆ่าแมลงเข้าไปในร่างกายเป็นเวลานาน จะทําให้การทํางานของระบบอวัยวะภายในร่างกายผิดปกติ อาจถึงขั้นเป็นมะเร็งได้
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ในช่วง เทศกาลกินเจ ปีนี้ มีผู้นิยมรับประทาน อาหารเจ เป็นจํานวนมาก โดย ผักผลไม้ เป็นส่วนประกอบที่สําคัญของ อาหารเจ ซึ่งสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยจากการรับประทานผักผลไม้ เนื่องจากที่ผ่านมามักพบปัญหาการปนเปื้อนสารเคมีกําจัดศัตรูพืชหรือสารฆ่าแมลง ดังนั้น จึงขอแนะนําให้เลือกซื้อผักที่มีสภาพสดใหม่ สะอาด ไม่มีลักษณะแข็งหรือกรอบจนเกินไป ไม่มีกลิ่นฉุนแสบจมูก ไม่มีเชื้อรา ไม่มีสีผิดจากธรรมชาติ ไม่มีเศษดินหรือสิ่งสกปรกเกาะเป็นคราบติดอยู่ และที่สําคัญต้องไม่มีคราบสีขาวของสารฆ่าแมลงตกค้างอยู่ นอกจากนี้ควรเลือกซื้อผักที่มีรูพรุนจากการเจาะของแมลง ซึ่งอาจแสดงว่าผักนี้ไม่ใช้สารฆ่าแมลง ส่วนการเลือกซื้อผลไม้ต้องดูที่ผิวสดใหม่ ขั้วหรือก้านยังเขียวและแข็ง เปลือกไม่ช้ําหรือดํา ที่สําคัญหลังจากที่ซื้อผักผลไม้มาแล้วนั้น ควรทําความสะอาดก่อนนําไปรับประทานหรือนําไปปรุงอาหาร เพื่อลดสารพิษตกค้าง
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ในช่วง เทศกาลกินเจ ปีนี้ มีผู้นิยมรับประทาน อาหารเจ เป็นจํานวนมาก โดย ผักผลไม้ เป็นส่วนประกอบที่สําคัญของ อาหารเจ ซึ่งสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยจากการรับประทานผักผลไม้ เนื่องจากที่ผ่านมามักพบปัญหาการปนเปื้อนสารเคมีกําจัดศัตรูพืชหรือสารฆ่าแมลง ดังนั้น จึงขอแนะนําให้เลือกซื้อผักที่มีสภาพสดใหม่ สะอาด ไม่มีลักษณะแข็งหรือกรอบจนเกินไป ไม่มีกลิ่นฉุนแสบจมูก ไม่มีเชื้อรา ไม่มีสีผิดจากธรรมชาติ ไม่มีเศษดินหรือสิ่งสกปรกเกาะเป็นคราบติดอยู่ และที่สําคัญต้องไม่มีคราบสีขาวของสารฆ่าแมลงตกค้างอยู่ นอกจากนี้ควรเลือกซื้อผักที่มีรูพรุนจากการเจาะของแมลง ซึ่งอาจแสดงว่าผักนี้ไม่ใช้สารฆ่าแมลง ส่วนการเลือกซื้อผลไม้ต้องดูที่ผิวสดใหม่ ขั้วหรือก้านยังเขียวและแข็ง เปลือกไม่ช้ําหรือดํา ที่สําคัญหลังจากที่ซื้อผักผลไม้มาแล้วนั้น ควรทําความสะอาดก่อนนําไปรับประทานหรือนําไปปรุงอาหาร เพื่อลดสารพิษตกค้าง
จากสารฆ่าแมลง โดยวิธีการล้างผักผลไม้มีหลายวิธีที่จะแนะนํา ดังนี้ ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต (เบ็คกิ้งโซดา) 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ําอุ่น 20 ลิตร แช่นาน 15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ําสะอาด จะช่วย ลดปริมาณสารตกค้างได้ 80-95% หรือเด็ดผักเป็นใบ ใช้น้ําสะอาดไหลผ่านหลายๆครั้ง จะช่วยลดปริมาณสารตกค้างได้ 54-63% หรืออาจจะใช้ด่างทับทิม 20-30 เกร็ด ผสมน้ํา 4 ลิตร แช่นาน 10 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ําสะอาด ช่วยลดปริมาณสารตกค้างลงได้ 35-43% หรือใช้น้ําส้มสายชูที่มี 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ํา 4 ลิตร แช่นาน 10 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ําสะอาด จะสามารถช่วยลดปริมาณสารพิษลงได้ 29-38% หรือใช้เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ํา 4 ลิตร แช่นาน 10 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ําสะอาด ช่วยลดปริมาณสารตกค้างได้ 27-38% อย่างไรก็ตาม ผักผลไม้ ที่จะต้องปอกเปลือก ควรล้างน้ําให้สะอาดก่อนปอกเปลือก
รองเลขาธิการ ฯ อย. กล่าวต่อไปว่า ขอให้ผู้บริโภคให้ความสําคัญในการเลือกซื้อและล้าง ผักผลไม้ หากเลือกซื้อหรือล้าง ผักผลไม้ อย่างไม่ถูกวิธี อาจได้รับอันตรายจากสารเคมีตกค้างได้ โดยถ้าได้รับในปริมาณมาก อาจแสดงอาการภายใน 2-3 ชั่วโมง อาการที่พบได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ท้องร่วง เป็นต้น แต่ถ้าได้รับในปริมาณน้อย แต่บ่อยครั้ง เป็นเวลานานในระยะยาว อาจทําให้เกิดอาการผิวหนังแห้ง ความจําเสื่อม เป็นหมัน มะเร็งลําไส้ เป็นต้น ฉะนั้น จึงขอย้ําให้ผู้บริโภคเลือกซื้อและล้าง ผักผลไม้ ให้ถูกวิธี เพราะนอกจากจะลดสารพิษที่ตกค้างอยู่ได้แล้ว ยังจะคงคุณค่าสารอาหารทั้งวิตามินและแร่ธาตุได้อย่างครบถ้วนอีกด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น